แนะนำ 6 ฟีเจอร์ใช้งาน MacBook คู่ iPad

6 พ.ค. 2023

ทำงานแบบต่อเนื่องระหว่าง MacBook และ iPad

ได้แบบไม่มีสะดุด พร้อมวิธีตั้งค่าและเปิดใช้งาน

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเดี๋ยวนี้ในการทำงานหลายคนใช้ทั้ง MacBook และ iPad คู่กันอยู่เสมอ เมื่อต้องการทำงานเต็มรูปแบบก็จัดการบน MacBook หรือถ้าต้องออกไปนอกสถานที่การพก iPad ไปใช้งานก็สะดวกสบายกว่า เพราะมีหลากหลายฟีเจอร์บน iPadOS ที่พร้อมทำงานได้ทุกเมื่อ อีกทั้งยังมี iCloud ที่สามารถเปิดไฟล์งานจากอุปกรณ์ใดก็ได้ และเราสามารถทำงานมัลติทาสก์แบบสลับอุปกรณ์ไปมาระหว่าง MacBook และ iPad ได้ง่ายๆ ใครที่มีทั้งสองอุปกรณ์นี้อยู่ในมือต้องดูด่วน! เพราะ iStudio by SPVi จะมาแนะนำฟีเจอร์ใช้งานคู่กันของ MacBook และ iPad มาให้ รับรองว่าช่วยให้เราทำงานได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

Universal Control

มาเริ่มกันที่ฟีเจอร์การควบคุมจากอุปกรณ์กลางหรือ Universal Control ฟีเจอร์นี้คือการที่เราใช้คีย์บอร์ดและแทร็คแพดชุดเดียวควบคุมระหว่าง MacBook และ iPad เพื่อย้ายตัวชี้ พิมพ์ รวมถึงการคัดลอกข้อความ ลิงก์ รูปภาพระหว่างอุปกรณ์ไปมาได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาในการทำงานได้มากๆ ไม่ว่าเราจะพิมพ์ไฟล์เอกสารอยู่บน MacBook ก็สามารถลากเคอร์เซอร์ตัวชี้ไปเลื่อนดูข้อมูลจาก Safari บน iPad ได้หรือถ้าต้องการค้นหาข้อมูลอื่นๆ ก็ใช้คีย์บอร์ดของ MacBook พิมพ์ค้นหาต่อใน iPad ได้เลย ซึ่งโดยปกติแล้วการใช้งานฟีเจอร์ Universal Control นั้นสามารถใช้งานได้ทันทีแต่หากใครที่ทำไม่ได้ก็ให้ไปตรวจสอบการตั้งค่ากันก่อน ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ตามนี้เลย

 

 

บน MacBook ไปที่ การตั้งค่าระบบ (System Settings) > จอภาพ (Display) > ขั้นสูง (Advanced) > กดเปิด อนุญาตให้ตัวชี้และแป้นพิมพ์ของคุณเลื่อนระหว่าง Mac หรือ iPad ที่อยู่ใกล้เคียง (Allow your pointer and keyboard to move between any nearby Mac or iPad)

 

บน iPad ไปที่แอปการตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > AirPlay และ Handoff > กดเปิด เคอร์เซอร์และแป้นพิมพ์ (Cursor and Keyboard) การตั้งค่านี้ใช้ได้เฉพาะใน iPad รุ่นที่รองรับการควบคุมจากอุปกรณ์กลาง และที่สำคัญอย่าลืมว่าทุกอุปกรณ์ทั้ง MacBook และ iPad จะต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันเท่านั้น

 

Universal Clipboard

นอกจากการใช้คีย์บอร์ดและแทร็คแพดชุดเดียวควบคุมระหว่าง MacBook และ iPad หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเราสามารถคัดลอกข้อความ ลิงก์ รูปภาพ จาก iPad ไปวางบน MacBook หรือสลับคัดลอกจาก MacBook ไปวางบน iPad ได้เลยโดยกดคัดลอกจากบนอุปกรณ์หนึ่งและกดวางบนอีกอุปกรณ์หนึ่ง แค่ทั้ง MacBook และ iPad ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันบนทุกอุปกรณ์ก็ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทันที

 

 

Sidecar

เปลี่ยน iPad เป็นจอเสริมหรือจอภาพที่สองสำหรับ MacBook ได้เลย เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน โดยให้ iPad แสดงแอปหรือหน้าต่างเดียวกันกับที่อยู่บน MacBook ก็ได้ ทำงานสะดวกสบายกว่าเดิม ซึ่งฟีเจอร์นี้เราสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อแค่ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันทั้งบน MacBook และ iPad รวมถึงต้องเปิด Wi-Fi และบลูทูธ ใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ iPad เข้ากับ MacBook ด้วยสาย USB

 

 

วิธีการเปิดใช้งาน Sidecar

บน Mac ให้เลือกเมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ (System Settings) แล้วคลิก จอภาพ (Display) คลิกเมนูที่แสดงขึ้น  (+) ทางด้านขวา จากนั้นเลือก iPad หรือใช้ศูนย์ควบคุม (Control Center) เพื่อเปิดใช้งาน Sidecar ได้แค่คลิก ศูนย์ควบคุม ในแถบเมนู แล้วคลิก การสะท้อนภาพหน้าจอ (Screen Mirroring) จากนั้นเลือก iPad

 

 

ถึงแม้ iPad จะถูกใช้เป็นหน้าจอที่สองแต่ก็ยังสามารถออกสู่หน้าโฮมและใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังคงการทำงานของ Sidecar เอาไว้อยู่ เมื่อต้องการกลับไปใช้งานก็เพียงแค่แตะไอคอน Sidecar บน iPad โดยการใช้ Sidecar แบบไร้สายอุปกรณ์ทั้งสองเครื่องต้องอยู่ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร และเปิดใช้งานบลูทูธ, Wi-Fi และ Handoff อยู่ หรือถ้าต้องการใช้ Sidecar ผ่าน USB ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า iPad ให้เชื่อถือ MacBook เรียบร้อยแล้ว

 

Screen Mirroring

และหากใครที่มีแอปสตรีมมิ่งดูหนัง ดูซีรีส์อยู่เป็นประจำบน iPad แล้วรู้สึกว่ายังจอใหญ่ไม่จุใจ อยากดูไปพร้อมกับเพื่อนก็สามารถใช้ MacBook ที่อยู่ใกล้เคียง สตรีมวิดีโอ รูปภาพ และเสียงแบบไร้สายจาก iPad ไปยัง MacBook ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน รวมถึงสามารถแชร์หน้าจอ MacBook ไปยัง MacBook เครื่องอื่นได้ด้วยเช่นกัน

 

 

Continuity Sketch

นอกจากนี้ iPad ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มความง่ายและสะดวกได้มากขึ้นอีกไม่ว่าจะเขียนข้อความ บนไฟล์รูปภาพ ไฟล์เอกสาร PDF การเซ็นชื่อก็ย้ายจากบน MacBook มาทำต่อบน iPad ได้ง่ายๆ

 

 

Continuity Camera

เพิ่มไฟล์รูปภาพหรือไฟล์สแกนเอกสารได้จากกล้อง iPad โดยไปที่ Desktop คลิกขวาเลือก Import from iPhone or iPad แล้วเลือกเมนูที่ต้องการใช้งาน เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดขั้นตอนการนำไฟล์เข้ามาได้แล้ว

 

 

และนี่ก็เป็นฟีเจอร์ใช้งาน MacBook คู่ iPad ได้ด้วยคุณสมบัติความต่อเนื่อง เพียงแค่สองอุปกรณ์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันก็สามารถใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ได้เลย หากใครที่มีเพียงแค่ MacBook หรือ iPad เครื่องเดียวแล้วสนใจอยากซื้อ MacBook หรือ iPad มาเพื่อใช้งานเพิ่มเติมก็สามารถมาดูสินค้าได้ที่ iStudio by SPVi ทุกสาขารวมถึงช่องทางออนไลน์ เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำสินค้าที่เหมาะและรุ่นที่ใช่อยู่เสมอ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน หรือนำเครื่องเก่ามาแลกใหม่ รุ่นไหนก็สามารถนำมาเทรดได้รับเครดิตแลกซื้อสูงสุด 42,200.- บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 

 


สาขาของ iStudio by SPVi และ iBeat by SPVi

 


ซื้อ Mac และ iPad ในราคาเพื่อการศึกษา

 


Price list | ราคาสินค้า Apple ทั้งหมด 

 


สมัคร iMember เพื่อรับสิทธิพิเศษ

 


 

สินค้าแนะนำ