รีวิว Apple Watch Series 7 และการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอป ECG

7 ก.พ. 2022

สำหรับสินค้าของ Apple ที่เป็นที่นิยมอย่างมากนอกจาก iPhone, iPad ในตอนนี้ก็ต้องยกให้ Apple Watch เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงมาก ๆ ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายทั้งในเรื่องของสุขภาพและไลฟ์สไตล์ รวมถึงมีสีสันและตัวสายให้เลือกหลายแบบ วันนี้ทางทีมงาน iStudio by SPVi ก็จะมารีวิว Apple Watch Series 7 ซึ่งเป็น Apple Watch รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป ให้ใครหลายคนที่อาจกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย มีแล้วจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเราได้อย่างไรบ้าง ก็มาดูในรีวิวนี้กันได้เลย !

 

จุดเด่นของ Apple Watch Series 7 นี้ก็คือหน้าปัดที่จัดเต็มแบบเต็มจอ มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดในบรรดา Apple Watch ที่เคยมีมาทุกรุ่น ด้านหน้าเป็นกระจกแบบคริสตัลที่ทนการแตกร้าวได้ดีที่สุดอีกทั้งยังสว่างมากขึ้นถึง 70% ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้จึงมาพร้อมคีย์บอร์ด QWERTY แบบ On-Screen ช่วยให้พิมพ์ข้อความได้สะดวกรวดเร็วขึ้น และมี Machine Learning ที่สามารถคาดเดาคำศัพท์ที่กำลังจะพิมพ์ได้ รองรับการชาร์จเร็วเป็นรุ่นแรกโดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 80% ได้ในเวลาประมาณ 45 นาที โดยใช้สายชาร์จกับ Adapter ที่รองรับโดย Apple

Apple Watch ยังเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยทางด้านสุขภาพ เพราะด้วยหลากหลายฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อนช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนไหว, การออกกำลังกาย, การแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอ, ติดตามการนอนหลับ, การวัดออกซิเจนในเลือดและอีกมากมายเรียกได้ว่า Apple Watch นั้นเป็นสุดยอดอุปกรณ์สำหรับชีวิตสุขภาพดีเลยทีเดียว และอีกฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่น่าสนใจนั่นก็คือ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอป ECG ซึ่งคุณสมบัตินี้นอกจาก Apple Watch Series 7 แล้ว Apple Watch Series 4, Series 5 และ Series 6 ก็สามารถใช้งานได้เช่นกันเพียงแค่อัปเดต Apple Watch ให้เป็น WatchOS 7.3 และใช้งานบน iPhone ที่อัปเดตเป็น iOS 14.4 ขึ้นไปก็สามารถใช้งานได้เลย

 

 

การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจบน Apple Watch คือการทดสอบที่จะบันทึกระยะเวลาและกำลังของสัญญาณไฟฟ้าที่ทำให้หัวใจเต้น เมื่อดูที่ ECG แพทย์จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจและตรวจสอบหาความผิดปกติต่าง ๆ ได้ อย่างแรกเรามาเปิดใช้งานเจ้าตัวฟีเจอร์การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยแอป ECG บน Apple Watch นี้กันก่อนเลย อันดับแรกให้เข้าไปที่แอป Watch บน iPhone แล้วเลื่อนลงมาที่ หัวใจ > แตะตั้งค่าแอป ECG ในแอปสุขภาพ (Health) > แตะตั้งค่า > ใส่ข้อมูลวันเกิด > จากนั้นจะปรากฏข้อมูลการทำงานของแอป ECG รายละเอียดผลการบันทึกที่อาจเห็นและสิ่งที่ควรรู้ > เลือก ดำเนินการต่อ เป็นอันเสร็จสิ้น

 

จากนั้นเมื่อจะทำการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้ใส่ Apple Watch ให้กระชับกับข้อมือแล้วเปิดแอป ECG บน Apple Watch วางนิ้วลงบนปุ่ม Digital Crown ค้างไว้ 30 วินาที ระหว่างนี้เซ็นเซอร์ก็จะทำการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจของเรา เมื่อวัดเสร็จแล้วก็จะแสดงผลบนหน้าจอ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ในแอปสุขภาพ (Health) บน iPhone และสามารถนำออกมาเป็นไฟล์ PDF เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับแพทย์ได้ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ

 

 

•จังหวะไซนัส คือการที่หัวใจเต้นในรูปแบบที่สม่ำเสมอระหว่าง 50 ถึง 100 BPM ซึ่งผลลัพธ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อหัวใจห้องบนและห้องล่างเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

•ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) หมายความว่าหัวใจเต้นในรูปแบบที่ผิดปกติ เป็นรูปแบบของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติที่พบมากที่สุด

•อัตราการเต้นของหัวใจต่ำหรือสูง คืออัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่า 50 BPM หรือสูงกว่า 120 BPM

•ไม่สามารถสรุปผลได้ หมายความว่าไม่สามารถจัดประเภทข้อมูลที่บันทึกได้  ซึ่งอาจเกิดจากตัว Apple Watch ที่เราสวมอยู่นั้นไม่กระชับหรือพอดีกับข้อมือ ควรใส่ Apple Watch ใหม่โดยปรับสายให้พอดีแล้วทำการวัดใหม่อีกครั้ง

 

นอกจากในเรื่องของสุขภาพแล้ว ทางด้านไลฟ์สไตล์ Apple Watch Series 7 ก็มีให้เลือกทั้งหมด 5 สีใหม่ เขียว, น้ำเงิน, (PRODUCT)RED, สตาร์ไลท์, มิดไนท์ และยังมีสายหลายแบบหลากสีให้คุณได้ Mix & Match เข้ากับชุดในแต่ละวันแบบไม่ซ้ำ!

•สายแบบ Sport Band ทำมาจากยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์คุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน

•สายแบบ Solo Loop ทำมาจากซิลิโคนแบบนุ่มที่ยืดได้และออกแบบมาเพื่อที่สุดของความสบายโดยไม่มีหัวล็อคหรือตัวล็อค

•สายแบบ Sport Loop ทำมาจากไนลอนถักสองชั้นที่ทั้งนุ่มและระบายอากาศได้ดี มาพร้อมแถบหนามเตยที่ปรับให้กระชับได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

•สายแบบ Braided Solo Loop ทำมาจากด้ายรีไซเคิลที่ถักทอเข้ากับด้ายซิลิโคน เพื่อมอบที่สุดของความสบายในดีไซน์ที่ยืดได้โดยไม่มีหัวล็อคหรือตัวล็อค

•สายแบบ Milanese Loop ทำมาจากสแตนเลสสตีลผิวเนียนเรียบที่ผ่านการถักทอ และเป็นแม่เหล็กทั้งเส้น จึงสามารถปรับได้อย่างละเอียดเพื่อการสวมใส่ที่พอดิบพอดีที่สุด

•สาย Nike Sport Band ทำมาจากยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์ที่ทนทานและมีประสิทธิภาพสูง ทั้งยังมาพร้อมรูที่อัดขึ้นรูปมากมายซึ่งช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี

•สาย Nike Sport Loop ผลิตจากสายไนลอนถักที่ระบายอากาศได้ดี มาพร้อมโลโก้ Swoosh ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Nike ในสีสันสุดพิเศษเฉพาะ Nike เท่านั้น

 

Apple Watch Series 7 ราคาเริ่มต้น 13,900.- เช็คราคา Apple Watch รุ่นต่างๆ และสอบถามโปรโมชันสำหรับซื้อ Apple Watch รวมถึง Accessories ได้ที่ iStudio by SPVi ทุกสาขารวมถึงช่องทาง Online