หน้าหลัก ∕
บทความ ∕
Do more with iPad ทำได้มากขึ้นเมื่อใช้คู่กับ MacBook

Do more with iPad ทำได้มากขึ้นเมื่อใช้คู่กับ MacBook

24 มี.ค. 2022

ใครที่มีทั้ง iPad และ MacBook อยู่ในมือทั้งสองอย่างขอบอกเลยว่าต้องชอบฟีเจอร์ที่ iStudio by SPVi ได้เลือกเอามานำเสนอวันนี้กันแน่นอน เพราะเราสามารถใช้ iPad เป็นอุปกรณ์ช่วยในการทำงานควบคู่ไปกับ MacBook ได้ผ่านฟีเจอร์ Sidecar และ Universal Control ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและทำอะไรหลายอย่างได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมไอแพดผ่านเมาส์ คีย์บอร์ดและแทร็คแพดชุดเดียวกันกับแมคบุ๊ค ลากไฟล์งาน ไฟล์รูปข้ามไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้เลยทันทีไม่ต้องเสียเวลาคอยส่ง Airdrop ไปมาอีกเหมือนเคย และยังสามารถใช้งานร่วมกับการใช้ Apple Pencil บน iPad ได้อีกด้วย แค่ทั้งสองอุปกรณ์หลักล็อคอินด้วย Apple ID เดียวกันก็ใช้งานทั้งสองฟีเจอร์นี้ได้เลย แต่ทั้งสองฟีเจอร์นี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกัน!!

Sidecar

เริ่มที่ฟีเจอร์ Sidecar กันก่อนเลยเพราะน่าจะเป็นที่คุ้นเคยกันอยู่บ้างเนื่องจากได้ปล่อยออกมาให้ทุกคนได้ใช้งานกันสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยเปลี่ยน iPad ให้เป็นจอเสริมสำหรับการทำงานควบคู่กับ MacBook ของเราโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เลย แต่ต้องล็อคอิน Apple ID เดียวกันเท่านั้น โดยการเปลี่ยนจอ iPad ให้เป็นจอเสริมสำหรับการทำงานก็สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ 2 แบบ

แบบที่ 1 : ให้ iPad แสดงผลแบบเดียวกันกับจอ MacBook สำหรับตัวเลือกนี้ใครที่ใช้ Apple Pencil ในการทำงานไปด้วยต้องชอบแน่นอน เพราะบางครั้งเวลาที่เราทำกราฟิกด้วย Photoshop, Illustrator หรือแอปอื่น ๆ แล้วเราต้องการตกแต่งตัวงานด้วยการวาดลายเส้นหรือเติมแต่งให้เป็นสไตล์ของเราเองโดยไม่ใช้เวคเตอร์ประกอบ ก็ให้ไอแพดแสดงผลแบบเดียวกันกับบนจอ MacBook จากนั้นก็ใช้ Apple Pencil วาดเขียนในสิ่งที่เราต้องการลงบนตัวงานได้เลย ซึ่งการใช้ Apple Pencil มาช่วยก็จะทำให้ได้ลายเส้นที่ต้องการออกมาถูกใจมากกว่าการใช้นิ้วลากวาดผ่านแทร็คแพดแน่นอน

แบบที่ 2 : ให้ iPad เป็นส่วนขยายของหน้าจอ MacBook ทำให้หน้าจอแสดงผลการทำงานของ MacBook มีความกว้างขึ้น เราสามารถลากแอปที่ใช้งานไปวางให้แสดงผลบนหน้าจอ iPad ได้และยังใช้แอปอื่นที่หน้าจอหลักบน MacBook ได้เหมือนเดิม ใครที่ทำงานแล้วต้องใช้หลายแอปหลายโปรแกรมเปิดพร้อมกันน่าจะถูกใจมาก ๆ เพราะไม่ต้องคอยสลับหน้าจอหรือสลับแอปขึ้นมาเปิดดูทับกันแต่สามารถใช้ทุกแอปพร้อมกันได้เลย

ถึงแม้ไอแพดจะถูกใช้เป็นหน้าจอที่สองแต่ก็ยังสามารถออกสู่หน้าโฮมและใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังคงการทำงานของ Sidecar เอาไว้อยู่ เมื่อต้องการกลับไปใช้งานก็เพียงแค่แตะไอคอน Sidecar บน iPad โดยการใช้ Sidecar แบบไร้สายอุปกรณ์ทั้งสองเครื่องต้องอยู่ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร (30 ฟุต) และเปิดใช้งานบลูทูธ, Wi-Fi และ Handoff อยู่ หรือถ้าต้องการใช้ Sidecar ผ่าน USB ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า iPad ของคุณให้เชื่อถือ Mac ของคุณแล้ว

อุปกรณ์ที่รองรับฟีเจอร์ Sidecar ได้แก่

•Mac

MacBook Pro ที่เปิดตัวในปี 2016 หรือใหม่กว่า

MacBook ที่เปิดตัวในปี 2016 หรือใหม่กว่า

MacBook Air ที่เปิดตัวในปี 2018 หรือใหม่กว่า

iMac ที่เปิดตัวในปี 2017 หรือใหม่กว่า หรือ iMac (Retina 5K, 27 นิ้ว, ปลายปี 2015)

iMac Pro

Mac mini ที่เปิดตัวในปี 2018 หรือใหม่กว่า

Mac Pro ที่เปิดตัวในปี 2019

•iPad

iPad Pro ทุกรุ่น

iPad (รุ่นที่ 6) หรือใหม่กว่า

iPad Air (รุ่นที่ 3) หรือใหม่กว่า

iPad mini (รุ่นที่ 5) หรือใหม่กว่า

Universal Control

ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งปล่อยให้ได้ใช้งาน Universal Control หรือ ควบคุมจากอุปกรณ์กลาง จะช่วยให้เราทำงานสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์อย่างแมคและไอแพดได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้เมาส์ คีย์บอร์ดหรือแทร็คแพดแค่ชุดเดียว ทำให้ช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน จากที่ต้องส่งรูปผ่าน Airdrop ไปยังอีกเครื่องเราก็สามารถทั้งพิมพ์ข้อความ ลากไฟล์ต่าง ๆ ข้ามอุปกรณ์ MacBook และ iPad ได้ทันที เช่น เราสามารถลากเม้าส์ไปยังจอไอแพดเพื่อลากรูปมาวางใน Keynote บน MacBook ได้เลย หรือสามารถพิมพ์โต้ตอบแอปแชทที่ใช้งานบนไอแพดได้ผ่านคีย์บอร์ดของแมคบุ๊ค โดยเมื่อย้ายจาก Mac ไปยัง iPad เคอร์เซอร์ของเมาส์หรือแทร็คแพดก็จะเปลี่ยนจากลูกศรเป็นจุดกลมซึ่งการเปลี่ยนรูปทรงนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อให้มีการใช้งานเหมาะกับอุปกรณ์นั้นมากที่สุด

อุปกรณ์ที่รองรับฟีเจอร์ Universal Control ได้แก่

•Mac

MacBook Pro (ปี 2016 และใหม่กว่า)

MacBook (ปี 2016 และใหม่กว่า)

MacBook Air (ปี 2018 และใหม่กว่า)

Mac mini (ปี 2018 และใหม่กว่า)

iMac (ปี 2017 และใหม่กว่า)

iMac (5K Retina รุ่น 27 นิ้ว, ปลายปี 2015)

iMac Pro (ปี 2017)

Mac Pro (ปี 2019 และใหม่กว่า)

•iPad

iPad Pro ทุกรุ่น